พลาสติกวิศวกรรม เช่น ABS, อะคริลิก, โพลีคาร์บอเนต, ไนลอน, คอมโพสิต และโพลีเอสเตอร์ พบได้บ่อยในกระบวนการผลิตเนื่องจากนักออกแบบสามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย พลาสติกวิศวกรรมจะใช้ในงานประกอบที่ทนทานซึ่งอาจนำไปใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีความท้าทาย เช่น การใช้งานในอุตสาหกรรมหรือท่ามกลางสภาพอากาศแปรปรวน พลาสติกประเภทนี้มีต้นทุนต่ำ แข็งแรงและคงทน อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบาและนำไปหล่อแบบเป็นรูปทรงที่มีความซับซ้อนเพื่อให้ตรงกับงานออกแบบได้อย่างง่ายดาย และเนื่องจากพลาสติกประเภทนี้มีพลังงานพื้นผิวค่อนข้างสูง เทปและกาวจึงเกาะติดบนผิวและยึดติดได้ค่อนข้างง่าย
พลาสติกวิศวกรรมมีความยืดหยุ่นมากกว่าโลหะในการนำไปสร้างเป็นรูปร่างที่ซับซ้อนสำหรับงานออกแบบ อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพโดดเด่นและใช้ได้ดีภายใต้อุณหภูมิต่างๆ พลาสติกวิศวกรรมมีความทนทานสูงมากจึงสามารถนำไปใช้ในงานต่างๆ ที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศและรังสี UV และยังทนทานต่อการล้าได้ดีอีกด้วย
ข้อดีสำคัญของพลาสติกวิศวกรรมที่มีเหนือกว่าโลหะก็คือมีน้ำหนักเบาในขณะที่ยังมีคุณสมบัติด้านประสิทธิภาพบางอย่างเทียบเท่ากัน นอกจากนี้ พลาสติกวิศวกรรมยังช่วยลดต้นทุน แต่ไม่ใช่แค่การลดต้นทุนของวัตถุดิบเท่านั้น พลาสติกสามารถนำไปหล่อแบบเป็นรูปร่างที่ซับซ้อนได้โดยไม่ต้องมีต้นทุนในการปั๊ม เจาะ ดัด หรือกระบวนการอื่นๆ เหมือนโลหะ และสุดท้าย เนื่องจากชิ้นงานที่ได้มักน้ำหนักเบากว่าโลหะจึงมีต้นทุนในการขนส่งต่ำกว่าด้วย
เทป 3M™ VHB™ ช่วยให้คุณสร้างงานได้ตรงตามแบบที่ร่างไว้ ไม่ต้องพี่งพาน็อตสกรู และยึดติดชิ้นงานได้อย่างรวดเร็ว ง่ายดาย และทนทาน และจะยิ่งแข็งแรงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป อีกทั้งยังยึดติดวัสดุได้หลากหลายชนิด จึงเป็นโซลูชั่นการยึดติดที่ประยุกต์ใช้งานได้ลงตัวกับทุกงานออกแบบ
กาวโครงสร้างสูตรอะคริลิก 3M™ Scotch-Weld™ จะช่วยเพิ่มผลิตภาพและประสิทธิภาพของงานด้วยการยึดเกาะที่แข็งแรง มั่นคง แห้งไว และให้ความสวยงาม กาวโครงสร้างสูตรอะคริลิก ของ 3M™ สามารถทนต่อแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม กลิ่นน้อย และวางขายได้นานถึง 18 เดือนนับจากวันผลิตโดยไม่ต้องแช่เย็น
กาวแท่งของ 3M คุ้มราคาและใช้งานง่าย เนื้อกาวจะไหลเข้าเติมเต็มช่องว่างของพื้นผิวขรุขระได้อย่างดีเยี่ยม กาวแท่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับยึดติดพลาสติกวิศวกรรมกับวัสดุอื่นๆ และมักใช้กับป้าย ภาชนะบรรจุ บัว และคิ้วตกแต่ง
พลังงานพื้นผิวคือคุณสมบัติทางกายภาพของพื้นผิววัสดุที่จะกำหนดว่ากาวจะเคลือบพื้นผิวได้ดีเพียงใด สำหรับวัสดุที่มีพลังงานพื้นผิวสูง ของเหลวจะกระจายตัวออก แต่สำหรับวัสดุที่มีพลังงานพื้นผิวต่ำ ของเหลวจะไม่กระจายออกและจะเกาะตัวเป็นหยด กาวควรกระจายตัวออกบนวัสดุที่จะยึดติดจึงจะทำหน้าที่ยึดติดได้ พลาสติกวิศวกรรมมีพลังงานพื้นผิวค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับพลาสติกชนิดอื่นๆ ซึ่งทำให้ยึดติดได้ง่าย การเตรียมพื้นผิวในบางรูปแบบอาจช่วยเพิ่มพลังงานพื้นผิวได้มากขึ้น แต่สำหรับการใช้งานส่วนใหญ่แล้วจะไม่จำเป็นต้องเตรียมพื้นผิว
แข็งแรง ทนทาน และโปร่งใส ทนต่ออุณหภูมิได้ค่อนข้างสูง มีการนำไปใช้หลากหลายรูปแบบเนื่องจากสามารถนำไปอัดรีด หล่อแบบ หรือขึ้นรูปด้วยความร้อนได้ โพลีคาร์บอเนตมีพลังงานพื้นผิวค่อนข้างสูง แต่มักมีชั้นเคลือบป้องกันรอยขีดข่วนซึ่งอาจส่งผลต่อการเลือกกาวที่จะใช้
ไนลอนที่มักใช้ทำเป็นเส้นใยหรือผ้านั้น แท้จริงแล้วคือวัสดุประเภทหนึ่งที่มีความแข็งแรง ทนทาน และทนต่ออุณหภูมิ และมักนำไปใช้ทำชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ไนลอนเป็นพลาสติกที่มีพลังงานพื้นผิวค่อนข้างสูง แต่ไนลอนต่างชนิดกันก็จะต้องใช้การยึดติดที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่นเช่น น้ำยาถอดแบบแม่พิมพ์ที่ใช้ในการผลิตด้วย
เป็นเทอร์โพลีเมอร์ที่ทำจากอะคริโลไนไตรล์
บิวทาไดอีน และสไตรีน ให้ความทนทานและทนต่อแรงกระแทก สามารถนำไปหล่อแบบได้ง่ายและมีการนำไปผลิตเป็นสินค้าใช้งานทั่วไปหลายอย่าง โดยปกติแล้ว ABS จะยึดติดได้ง่าย แต่พลังงานพื้นผิวจะแตกต่างกันไปตามเกรด (ขึ้นกับเปอร์เซ็นต์ของโมโนเมอร์ทั้ง 3 ชนิด)
อะคริลิก PMMA มีความโปร่งใส ไม่แตกร้าวง่าย และขึ้นรูปหรือตัดได้ง่าย มักใช้แทนกระจกและพบได้บ่อยในงานป้ายต่างๆ อะคริลิกจะยึดติดได้ง่าย แต่ชั้นเคลือบป้องกันรอยขีดข่วนอาจเป็นปัญหาได้
โพลียูรีเทนส่วนใหญ่เป็นโพลีเมอร์ที่เซ็ตตัวด้วยความร้อนซึ่งจะไม่ละลายเมื่อถูกความร้อน แต่ทั้งนี้ก็มีเทอร์โมพลาสติกโพลียูรีเทนให้ใช้ด้วยเช่นกัน ยูรีเทน มักใช้สร้างผลิตภัณฑ์โฟมและยาง เช่น เบาะนั่งและปะเก็นยาง และยังใช้ทำกาวยูรีเทนด้วย ดังนั้นจึงยึดติดได้ค่อนข้างง่าย
โพลีเอสเตอร์สามารถขึ้นรูปได้ง่าย และมักใช้ทำเส้นใย เสื้อผ้า ฟิล์ม และขวด รวมถึงทำชิ้นส่วนทางไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และยังใช้ในการผลิตคอมโพสิตด้วย โพลีเอสเตอร์มีพลังงานพื้นผิวค่อนข้างสูง แต่การใช้งานบางรูปแบบอาจมีสิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษในกระบวนการยึดติด เช่น เจลที่เคลือบบนโพลีเอสเตอร์ / ไฟเบอร์กลาสที่ตัวเรือ
PVC ชนิดแข็ง เรียกอีกอย่างว่าไวนิล ใช้ทำเป็นท่อน้ำทิ้ง รางน้ำ ประตู กรอบหน้าต่าง วัสดุตกแต่งผนังด้านนอกอาคาร และบัตรเครดิต และสามารถยึดติดได้ค่อนข้างง่าย ส่วน PVC แบบยืดหยุ่นจะยึดติดได้ยากกว่า และบางครั้งผู้ใช้มักสับสนระหว่าง PVC ทั้งสองชนิด ดังนั้นคุณจึงต้องอธิบายถึงวัสดุที่ใช้อย่างละเอียด
ความเข้าใจประเภทของการประกอบจะช่วยให้สามารถเลือกชนิดกาวที่ทำให้ได้ผลการยึดติดที่ดีที่สุด การประกอบทั้ง 6 ประเภทที่แสดงด้านล่างนี้จะมีลักษณะเฉพาะของการออกแบบที่แตกต่างกันซึ่งมักเป็นสิ่งที่กำหนดกาวหรือเทปที่ควรใช้
สร้างผลิตภัณฑ์แห่งนวัตกรรมได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และแข็งแรง ติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อปรึกษา และรับคำแนะนำเกี่ยวกับโซลูชั่นที่เหมาะกับงานประกอบและยึดติดที่คงทนของคุณ