เพิ่มประสิทธิภาพความสามารถในการดูแลพื้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความทนทานและมีการประเมินผลเรื่อยๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการดูแลพื้น หากทำไม่ถูกต้องอาจส่งผลเสียทั้งการเสียเวลาและงบประมาณ โชคดีที่การเลือกแผ่นเช็ดพื้นที่มีความทนทานเพิ่มขึ้นจะทำให้พนักงานทำความสะอาดสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้ดียิ่งขึ้นและลดขยะให้น้อยที่สุด ความทนทานของแผ่นเช็ดพื้นยังสามารถส่งผลโดยตรงกับต้นทุนแรงงานของคุณ นอกจากนี้ ความทนทานของแผ่นเช็ดพื้นมีบทบาทสำคัญในแผนยั่งยืนของอาคารของคุณ

เป็นความรับผิดชอบของผู้จัดการอาคารในการให้แน่ใจว่าได้ดูแลพื้นเป็นอย่างดีและอยู่ในงบประมาณที่กำหนด การเลือกแผ่นเช็ดพื้นที่ทนทานและมีประสิทธิภาพสูงที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับงานบำรุงรักษาโดยเฉพาะจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจะช่วยประหยัดเงินได้ในระยะยาว เนื่องจากสามารถลดต้นทุนแรงงานและไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์หลายชิ้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เดียวกัน ประสิทธิภาพและความทนทานสูงสามารถทำได้โดยการเลือกแผ่นเช็ดพื้นที่ผลิตด้วยเส้นใยที่ผ่านการเคลือบเพื่อให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น และให้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพสูงและสม่ำเสมอสูงสุด

ประสิทธิภาพสูงเท่ากับการทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนแรงงาน สำหรับการบำรุงรักษาตามกำหนด เช่น การขัดถูและการเคลือบใหม่ Scotch-Brite™ Surface Preparation Pad Plus แผ่นขัดเตรียมพื้นผิว จะช่วยขจัดสารเคลือบเงาพื้นได้เร็วกว่าแผ่นขัดพื้นของคู่แข่งถึงสองเท่า แม้จะมีการใช้งานหลายอย่าง ดังนั้นจึงทำงานได้นานขึ้นและไม่ต้องใช้แผ่นรองหลัง สำหรับการบำรุงรักษารายวัน Scotch-Brite™ Clean & Shine Pad สามารถขจัดรอยดำได้เร็วกว่าถึงสามเท่าและใช้งานได้ยาวนานกว่าแผ่นเช็ดทำความสะอาดแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ยังสามารถขัดเงาแบบไร้ฝุ่นได้ ลดเวลาแรงงานและค่าใช้จ่ายโดยการลดหรือกำจัดความจำเป็นในการขัดออกไป

ทั้ง Scotch-Brite™ Surface Preparation Pad Plus แผ่นขัดเตรียมพื้นผิว และแผ่น Scotch-Brite™ Clean & Shine Pad ทำงานได้ดีเมื่อใช้กับน้ำหรือน้ำยาทำความสะอาดที่เป็นกลาง โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีรุนแรง นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์เพิ่งได้รับการรับรองจาก Green Seal® ของนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมภายใต้มาตรฐาน GS-20 การรับรองนี้รับรองผลิตภัณฑ์ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพและความทนทานอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมยืดอายุการใช้งานของแผ่นเช็ดพื้น และลดการสร้างขยะ

การสึกหรอเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นเมื่อผู้จัดการอาคารเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญอีกสิ่งที่เท่าเทียมกันคือการประเมินประสิทธิภาพอย่างสม่ำเสมอ สำหรับแผ่นเช็ดพื้นนั้น มีการพิจารณาที่สำคัญสามประการเพื่อพิจารณาว่าผลิตภัณฑ์หมดอายุการใช้งานหรือไม่ และรวมถึง:
 

1. ตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ - เมื่อใช้แผ่นเช็ดพื้นสำหรับงานเฉพาะ เช่น การลอกและการขัดพื้น ประสิทธิภาพโดยรวมของผลิตภัณฑ์สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกว่าทำงานได้ดีหรือไม่ แผ่นเช็ดที่จำเป็นต้องเปลี่ยนมักจะไม่ทำงานได้ตามที่คาดไว้ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ต่ำกว่ามาตรฐาน หลักฐานประจักษ์ทางสายตานี้จะกำหนดว่าแผ่นเช็ดพื้นผืนนั้นจำเป็นต้องถูกเปลี่ยนทั้งชิ้นหรือสามารถเปลี่ยนพลิกกลับใช้อีกด้านแทนได้ซึ่งขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์
2. การตรวจสอบด้วยภาพที่เห็น - ลักษณะที่ปรากฏของแผ่นเช็ดพื้นอาจเป็นวิธีที่ง่ายในการยืนยันประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น แผ่นเช็ดพื้นบางแผ่นในตลาดมาพร้อมกับแผ่นชั้นนอกที่เคลือบด้วยสเปรย์ที่มีสีแตกต่างจากพื้นผิวการทำความสะอาดหลัก เมื่อสเปรย์ที่ถูกเคลือบไว้ถูกขัดถูออก จะช่วยให้พนักงานทำความสะอาดสามารถมองเห็นได้ง่ายว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแผ่นแล้ว
3. การดูแลโดยรวม - การบำรุงรักษาแผ่นเช็ดพื้นโดยทั่วไปจะช่วยระบุได้ว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนหรือไม่ เมื่อพนักงานทำการล้างและทำความสะอาดแผ่นเช็ดหลังจากเสร็จงานประจำ พวกเขาสามารถระบุได้อย่างรวดเร็วว่าสิ่งสกปรกและเศษผงที่เหลือส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพหรือไม่

มีแนวโน้มว่าผู้จัดการอาคารจะยังคงเผชิญกับต้นทุนแรงงานและผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น โชคดีที่การเลือกผลิตภัณฑ์ที่คงทนและการเปลี่ยนทดแทนในเวลาที่เหมาะสม และการตระหนักถึงความสำคัญของการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง ผู้จัดการอาคารสามารถมั่นใจได้ถึงคุณภาพของงานโดยรวม ในขณะเดียวกันก็เพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนสูงสุด